บทความทั้งหมด
บทความทั้งหมด

ชำเเหละ ความสำเร็จ ปรากฏการณ์ The Mask Singer ทำเอาวงการละคร สะเทือน

เเต่ไหนเเต่ไร เวลา Prime Time ที่ทุกคนต่างรู้ดี ว่าเป็นเวลาของ ละครช่องน้อยสี เเละ ช่องมากสี โดยยึดครองมาตั้งเเต่กรุงศรียังไม่เเตก (อะไรจะขนาดนั่น) เเต่เเล้วการเกิดมาของ รายการ “The Mask Singer” จาก WorkPoint ได้สร้างปรากฏการณ์ที่เป็นกระเเสพูดกันทั่วบ้านทั่วเมือง ไม่ว่าจะลูกเด็กเล็กเเดง ก็เคยดูหมด เรียกได้ว่าเเย่งซีนช่วงเวลา Prime Time ของสองยักษ์ใหญ่ได้เป็นที่สำเร็จ

หากคุณผู้อ่านยังไม่ทราบ The Mask Singer ได้ถือกำเนิดมาจาก ประเทศเกาหลี เเละประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม จนประเทศจีนทนไม่ไหวซื้อลิขสิทธิ์ไปทำ เเละล่าสุดเป็นไทย ประเทศที่ 3 ที่ WorkPoint ได้ตัดสินใจซื้อลิขสิทธิ์ไปทำ เเละก็ไม่ต้องสืบ หลังออกอากาศได้ไม่กี่ตอน ก็กลายเป็นรายการที่ดาวรุ่งพุ่งเเรง ดังชนิดที่เป็นปรากฏการณ์ทั้งบนจอทีวี เเละโลกออนไลน์

ส่วนบนจอทีวี ก็สามารถโกยเรตติ้งได้ทั่วทั้งประเทศ โดยเฉพาะกรุงเทพฯ ที่เเซงหน้าละครช่อง 3 เเละ 7 ไปเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว !!

ก็เป็นเช่นเดียวกับบน โลกออนไลน์ จากการออกอากาศผ่าน Facebook Live ก็มีผู้เข้าชมถึง 10,055,898 คนที่เข้าถึง 3,501,046 การรับชมวีดีโอ เเละ 1,208,505 การร่วมเเสดงความรู้สึก ความคิดเห็น เเละการเเชร์ เลยทีเดียว

ขณะที่บนช่องทาง Youtube ก็มีผู้คนเข้าชมอยู่ที่ ประมาณ 8 เเสนกว่าคนเลยทีเดียว

มันเป็นรายการที่ร้อนเเรง จนทีมงาน MakeWebEasy ร้อนตามทนไม่ไหวที่จะ มาถอดรหัส ตามมาดูเคล็ดลับ ว่าทำไม. “The Mask Singer” ถึงประสบความสำเร็จอย่างสูงมากในเมืองไทย มาอ่านกันเลยครับ

  1. ความอยากรู้อยากเห็นของคนไทย

ใช่เเล้วครับ รูปเเบบของคอนเทนต์ ที่เเสนจะเเปลกใหม่ สร้างความสงสัย ทำให้คนไทยเฝ้าติดตามเเละลุันไปกับทุกตอนที่ได้ออกอากาศ ว่าใครนะซ้อนอยู่ภายใต้หน้ากากนั้นๆ จะเป็นศิลปินคนไหนนะ !!  รู้หรือไม่ว่า WorkPoint ได้เซ็นสัญญากับทั้งดารา นักร้องที่มาตกลงร่วมรายการ เเละทีมงาน ว่าห้ามมิให้บอกคนอื่นว่าเป็นใคร

  1. ตลก ด้วยส่วนผสมใหม่

หากคุณผู้อ่านได้เคยมีโอกาส ดู The Mask Singer ของเกาหลี ซึ่งของเกาหลีนั้นจะเน้นการร้องเพลง เเละโปรโมทศิลปินทั้งที่มีชื่อเสียงอยู่เเล้ว เเละยังไม่มีชื่อเสียงมากนักให้เป็นที่รู้จัก เเต่ เเต่ เเต่ ของ ประเทศไทย ด้วยจริตของคนไทย ที่ชอบอะไรที่ตลก สนุกสนาน ทีมงานเลยจัดเต็มเพิ่มดีกรีความตลกให้มากขึ้นกว่าต้นฉบับมาก รวมถึง พิธีกร คณะกรรมการ เเละดารานักร้องที่ร่วมรายการ ชนิดที่ว่าฮาจนตกเก้าอี้เลยทีเดียว

  1. โปรดักชั่น เครื่องเเต่งกาย ดารานักร้องอลัง จัดเต็มมากๆ

ถือเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ดึงความน่าสนใจของผู้ชมได้อย่างมาก ทั้ง 3 ประเทศจะมีความเเตกต่างกัน โดยสิ้นเชิง เเละในไทย ทั้งโปรดักชั่นเเละเครื่องเเต่งกาย จะให้ ดารา นักร้อง ใส่ชุดคลุมหมดทั้งตัว ตามคอนเซ็ปต์ที่ดารานักร้องคนนั้นๆ เลือก เรียกได้ว่าจัดเต็มอลังการกว่าของเกาหลีที่ดารานักร้องร่วมรายการ ที่ใส่เพียงหน้ากากปิดบังเฉพาะหน้าเท่านั่น

  1. ผสมผสานระหว่างสื่อออฟไลน์ เเละออนไลน์

ปัจจุบันคอนเทนต์ของทีวีในยุคปัจจุบัน จะไม่ได้พึ่งพาเฉพาะการออกอากาศบนหน้าจอทีวี อย่างเดียวเท่านั้น เเต่ต้องนำเเพลตฟอร์มของออนไลน์เข้ามาผสมผสานด้วย The Mask Singer ถือเป็นกรณีศึกษาที่ยอดเยี่ยม สำหรับการสร้างประสบการณ์การรับชม ผ่านหน้าจอทีวีเเละออนไลน์ ทำให้ผู้ชมง่ายต่อการรับชม เเละเข้าถึง เเล้วเมื่อมันสนุก มันดี ความไวรอลจะไปไหนเสีย

อย่าลืมว่าด้วยเเพลตฟอร์มของออนไลน์ ทำให้เกิดการพูดคุยถึงคอนเทนต์ ณ ขณะที่ชมได้อย่างทันที มันสร้าง Engagement ได้มากมาย ระหว่างรายการ ผู้ชม เเละคอนเทนต์ที่ถูกนำไปพูดในเว็บบอร์ด ยกตัวอย่างเช่น Community ขนาดใหญ่มหาศาล อย่าง Pantip.com ก็ช่วยเสริม เป็นเหตุให้กระเเสโหมกระพือต่อ กระตุ้นความอยาก ให้ผู้ชมรู้สึกอยากติดตามเเละสนุกกับการร่วมเเสดงความคิดเห็นเเละทายว่าหน้ากากนักร้องนั้นๆ เป็นใคร

🙂 เป็นยังไงบ้างครับ กับบทความในครั้งนี้ ก่อนจากกัน คุณผู้อ่าน อย่ามัวเเต่ที่จะลุ้นกับหน้ากากนักร้องเจ้าปริศนา จนลืมที่จะหาเจ้าหน้ากากสำหรับธุรกิจของคุณผู้อ่าน ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จด้วยนะครับ