Lady Gaga กับการตลาดที่แฝงอยู่

รู้ไหมว่าการสร้างชื่อเสียงกับการทำการตลาดมีส่วนเหมือนกันขนาดไหน ??

คำตอบคือทั้งสองสิ่งนี้มีความคล้ายคลึงกันมาก ในขณะที่บรรดานักการตลาดพยายามที่จะหาแนวทางในการทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักและเป็นที่รักของลูกค้า

Lady Gaga (เลดี้ กาก้า) ศิลปินนักร้องชื่อดังระดับโลกก็ได้พยายามทำสิ่งเดียวกัน ความสำเร็จของเธอนั้นการันตีได้จาก follower กว่า 10 ล้านคนใน Twitter และกว่าอีก 35 ล้านคนบนแฟนเพจ Facebook เพียงเท่านี้ก็ทำให้เธออยู่ในระดับตำนานของวงการเพลงได้แล้ว ด้วยจำนวนแฟนเพลงและผู้ติดตามบน social media อันมากมายมหาศาลนี้ จนบางทีเราก็เริ่มแปลกใจว่าในความเป็นจริงแล้วเธอเป็นซุปเปอร์สตาร์ชื่อดัง หรือนักการตลาดตัวยงกันแน่ และนี่คือบทเรียนบางส่วนที่บรรดานักการตลาดทั่วไปสามารถเรียนรู้ได้จากเลดี้ กาก้า

1. ให้ความสำคัญกับจังหวะและเวลา

Lady Gaga เริ่มต้นได้ดีตั้งแต่การเปิดตัวในขณะที่วงการเพลงอยู่ในช่วงซบเซา ซึ่งก็ทำให้ความสนใจทั้งหมดพุ่งเป้ามาที่เธอได้อย่างไม่ยาก รวมถึงการแถลงการเปิดตัวเพลงหรืออัลบั้มใหม่ๆ ของเธอจะต้องมีการวางแผนและหาจังหวะในการปล่อยเพลงใหม่ๆ ได้เหมาะสมกับเวลา ซึ่งดูได้จากจำนวนยอดวิวใน Youtube ที่เพลงของเธอบางเพลงนั้นมียอดผู้ชมสูงถึงกว่าหลายร้อยล้านครั้ง ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพราะเธอเลือกที่จะหยุดรอ และสร้างปรากฏการณ์ใหม่ๆ ทุกครั้งที่มีโอกาสที่เหมาะสม

มุมมองการตลาด: ในโลกของธุรกิจการจะปล่อยสินค้าออกมาขายนั้นก็ต้องดูจังหวะและเวลาไม่ต่างกันเท่าไร การวางจำหน่ายต้องดูโอกาสที่เหมาะสม เกาะแนวโน้มหรือเทรนด์ความนิยมของคนในตอนนั้นให้ทัน ไม่ช้าไม่เร็วจนเกินไป เช่น เราอาจเปิดตัววิตามินบำรุงร่างกายต่างๆ เป็นสินค้าใหม่ในช่วงที่ผู้คนกำลังให้ความสนใจกับเรื่องสุขภาพกันเป็นอย่างมาก ก็จะทำให้ผลิตภัณฑ์ของเราเป็นที่สนใจของลูกค้าได้ไม่ยาก

2. แฟนคลับคือกุญแจความสำเร็จ

ในทุกๆ คอนเสิร์ตของ Lady Gaga เรามักจะเห็นเธอกล่าวขอบคุณแฟนคลับของเธอที่ทำให้เธอมีวันนี้ได้อยู่เสมอ และทุกรายละเอียดที่เธอทำในคอนเสิร์ตแต่ละครั้งนั้นแสดงให้เห็นได้ถึงความเอาใจใส่และสร้างความประทับใจให้เป็นที่จดจำของเหล่าแฟนคลับของเธอได้แทบทุกครั้ง รวมถึงการใช้โซเชียลมีเดียอย่าง Twitter และ Facebook ในการเข้าถึงแฟนคลับของเธออยู่ตลอดเวลา ซึ่งเธอขับเคลื่อนความภักดีของแฟนคลับเธอด้วยการ tweet ตอบแฟนๆ โดยตรงเป็นรายบุคคล แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสำคัญของเธอในงานประกาศรางวัล Grammy Awards ก็ตาม

มุมมองการตลาด: อำนาจอย่างหนึ่งที่ทำให้เราแตกต่างจากลูกค้าคือลูกค้าสำคัญกับเรามาก แต่เราจะสำคัญในสายตาลูกค้าหรือไม่ขึ้นอยู่กับวิธีที่เราปฏิบัติต่อพวกเขา ความเป็นมิตรและการสร้างความประทับใจง่ายๆ ด้วยการ “ขอบคุณ” เป็นอีกวิธีง่ายๆ ที่จะสร้างความรู้สึกเหล่านี้ พยายามสอบถามความพึงพอใจของพวกเขาอยู่บ่อยๆ เพื่อนำสิ่งเหล่านั้นมาพัฒนาปรับปรุงให้สินค้าและบริการของเราตรงตามความต้องการลูกค้ามากขึ้น ของแถมหรือของสัมมนาคุณพิเศษสำหรับลูกค้าขาประจำหรือกิจกรรมคืนกำไรต่างๆ ถือเป็นอีกตัวอย่างเพื่อแสดงความขอบคุณ และแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีคุณค่ากับเรามากแค่ไหนได้อีกด้วย

3. ใส่ใจในรายละเอียด

Lady Gaga เป็นนักร้องที่ไม่เคยลิปซิงค์ในคอนเสิร์ตเลย เธอต้องใช้ความพยายามฝึกฝนในการร้องและเต้นเป็นอย่างมาก นั่นเป็นเพราะเธอใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยในโชว์ของเธอเพื่องานออกมาดีและแฟนๆ ของเธอเกิดความประทับใจ

มุมมองการตลาด: จำไว้ว่ารายละเอียดเล็กๆ ก็สำคัญ เช่น ถ้าเราเปิดร้านอาหารสิ่งสำคัญอันดับแรกคงหนีไม่พ้นความสะอาดและถูกสุขอนามัย การทำความสะอาดร้าน หรือแม้แต่การให้พ่อครัวและพนักงานใส่หมวกระหว่างทำงาน รายละเอียดเล็กๆ เหล่านี้ก็จะสร้างความรู้สึกให้ลูกค้าเชื่อมั่นในความสะอาดที่เราพร้อมจะมอบให้ แต่ถ้าหากวันใดที่เราละเลยในจุดนี้เราอาจต้องเสียลูกค้าคนสำคัญไปเลยก็ได้

4. สร้างมนต์ขลัง

เท่าที่เรารู้จักกับ Lady Gaga มาก็ยังไม่เคยเห็นเธอใส่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ปรากฏตัวออกสื่อไหนๆ มาก่อนเลย นั่นเป็นเพราะเธอได้ปิดบังวิถีของคนปกติเอาไว้อยู่เสมอ และเมื่ออยู่ในที่สาธารณะเธอก็แสดงเอกลักษณ์ของตัวเองได้อย่างมีมนต์ขลัง และความเป็นมืออาชีพของเธอก็คือการยังคงความเป็น Lady Gaga ตามที่แฟนๆ อยากเห็นไว้ได้ตลอดเวลา

มุมมองการตลาด: ลูกค้าส่วนใหญ่อาจจะไม่ค่อยได้สนใจนักว่ากระบวนการมากมายที่ต้องผ่านกว่าจะออกมาเป็นผลิตภัณฑ์สินค้าที่พวกเขาพอใจได้นั้นเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่เขาต้องการมากกว่าคือสินค้าที่ตอบสนองความต้องการได้ตรงจุด มีเอกลักษณ์โดดเด่น และหากเป็นไปได้ก็ต้องแตกต่างจากสินค้าอื่นๆ ในทางที่ดี ดังนั้นไม่ว่าแบรนด์เราจะสร้างอะไรใหม่ๆ ขึ้นมาก็ตาม นั้นควรคงเอกลักษณ์ความเป็นตัวเราเอาไว้ และอย่าลืมพัฒนาสินค้าโดยอิงกับแนวความคิดว่าเรากำลังทำเพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าให้ได้มากที่สุด

5. สร้างความแตกต่าง

ความแปลกถือเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของ Lady Gaga แต่เธอกลับใช้ความแปลกนี้มาเป็นจุดขาย ในขณะที่คนที่ทำอะไรปกติทั่วไปถึงได้เป็นแค่คนธรรมดา ทำให้คนที่กล้าจะแสดงตัวตนออกมาอย่างเธอถึงโดดเด่นกว่าผู้อื่นมาก

มุมมองการตลาด: ของบางอย่างถ้าเราไม่สามารถทำให้ดีกว่าสินค้าที่มีอยู่ตามท้องตลาด โดยเฉพาะไม่สามารถสู้กับสินค้าของบริษัทใหญ่ๆ ได้ การทำให้แตกต่างก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะดึงความสนใจของผู้คน หรือสร้างกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่ยังไม่มีในตลาดได้ แต่ในความแตกต่างนั้น ต้องมั่นใจว่าเป็นสิ่งที่คนเห็นคุณค่าและต้องการเป็นอย่างมาก เช่น ในตลาดเครื่องดื่มที่มีชาเขียวญี่ปุ่นออกมาหลายต่อหลายยี่ห้อ แต่กลับมีบางยี่ห้อที่สร้างความแตกต่างออกมาโดยการขายชาอังกฤษ และสร้างจุดเด่นในเรื่องความหอมกว่าชาเขียวญี่ปุ่นทั่วไป จึงทำให้กลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบดื่มชาแต่ไม่เจาะจงว่าต้องเป็นชาอะไรเป็นพิเศษเลือกซื้อ รวมถึงลูกค้าชาเขียวที่ต้องการทดลองอะไรใหม่ๆ ด้วย

แม้ว่าสิ่งที่เลดี้ กาก้าทำนั้นจะดูแปลกไม่เหมือนใคร แต่ถ้าหากมองดีๆ แล้วเราจะเห็นการตลาดมากมายแฝงอยู่ในนั้น ความน่าสนใจของผู้หญิงคนนี้มีมากถึงขนาดมีการเปิดคณะเพื่อศึกษาเกี่ยวกับการสร้างชื่อเสียงของเธอเลยเดียว ซึ่งแนวทางการสร้างชื่อเสียงของเธอนั้นก็สามารถนำมาดัดแปลงให้เข้ากับการตลาดเพื่อนำมาประยุกต์ใช้ได้จริงอีกด้วย